วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

งานร่ม...ร่ม

 สมัยก่อน....
     ร่ม ...ที่เราคุ้นเคยมักจะเป็นร่มขนาดเล็กที่ใช้บังแดด
บังฝน  ร่มที่ใช้งานดังกล่าวมักผลิตจากผ้าพลาสติกที่มีความลื่น
ด้วยจุดประสงค์ของการใช้งานได้จริงเป็นหลักสำคัญ
แต่ปัจจุบัน......เราพบว่า ร่มมีการพัฒนาเปลื่ยนแปลงรูปแบบให้ทันสมัย
ทั้งยังมีหลากหลายแบบ..ให้เลือกไปใช้ได้ในทุกสถานการณ์
ร่มกระดาษ, ร่มผ้าฝ้าย, ร่มสนามฯ หรือร่มที่เขียนลาย ทั้งใช้วัสดุเพิ่มเติมคือไม้ ,ไม้ไผ่ในการประกอบขาตั้ง ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้นไปอีก   การดัดแปลง....ทำให้รูปแบบเดิมมีประโยชน์ต่อการใช้งาน
ทั้งยังสร้างเสริมจินตนาการ และความจัดเจนต่อศิลปะบูรณาการณ์ที่ผันผ่านกาลเวลามาจนถึงปัจจุบัน 

วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

กระเป๋า...กระเป๋า่

กระเป๋า....ใบนี้
...........ใช้งานปักผ้าม้งไทย-ลาว
นำมาออกแบบให้เข้ากับงานหนัง
ทำให้กระเป๋ามีความแปลกใหม่ เหมาะกับคนที่ชอบงานกระเป๋าผ้าปักร่วมสมัย...........
ผ้าปักชิ้นนี้..........
อาจดูคุ้นตาสำหรับคนบางคน
ใช่แล้ว........
.................เป็นงานปักที่จะอยู่บริเวณคอเสื้อด้านหลัง    ผู้หญิงของชาวเขาเผ่าม้งทั้งไทย-ลาวจะปักลวดลายเรขาคณิต ใช้เทคนิกกาีรปัก การตัดต่อผ้า
การจัดวางโทนสี  ทั้งนี้เพื่อให้เกิดชิ้นงานตามความพอใจของตน เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
ผ้าปักชิ้นนี้...ที่บอกว่าเป็นผ้าปักม้งไทย-ลาว
นั่นเพราะ .......ชาวเขาเผ่าม้งในประเทศไทย และ ประเทศลาว
มีวัฒนธรรมการแต่งกายที่คล้าย   หรือ.......  แทบจะเหมือนกัน
การหลั่งไหลของวัฒนธรรม...........
ลักษณะเฉพาะของชนเผ่า..............
....ทำให้เกิดงานที่สวยงามแปลกตา  ทั้งยังสามารถก่อให้เกิดการพัฒนา
นำมาสร้าง....ให้เกิดงานที่มีคุณค่าในอีกรูปแบบนึง


www.hmongbag.com

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

ผ้าอุ้มเด็กม้งจีน

ผ้าอุ้มเด็ก
.................
ครั้งแรกที่ได้ยินอาจจะนึกไม่ออกว่า..เป็นผ้าแบบไหน..ใช้อุ้มเด็กยังไง....
.............................................
ผ้าอุ้มเด็ก..........
............ผ้าที่ชาวเขาใช้รองรับตัวเด็กโดยใช้สายผ้าพันรอบตัวเด็กเพื่อผูกติดกับแม่ ทั้งนี้เพื่อการดูแลอย่างใกล้ชิด และเพื่อให้แม่สามารถทำงานอื่นได้อย่างสะดวกยิ่งขี้น
.............................................
ผ้าอุ้มเด็กชาวเขา..............
............มีลักษณะที่แตกต่างไปตามชนชาติ เผ่า
หรือแม้แต่ลักษณะภูมิอากาศ ประเทศที่อยู่อาศัย
.............................................
ซึ่งนอกเหนือจากประโยชน์ในการใช้อุ้มเด็กแล้ว
ชาวเขายังได้สร้างงานผ้าอุ้มเด็กของตนเอง..............
โดยการปักลวดลายต่างๆตามจินตนาการของตนเอง อาจจะเป็นธรรมชาติสิ่งแวดล้อม หรือลวดลายตามทัศนคติที่เชื่อว่าเมื่อลูกตนได้ใช้จะเติบโตแข็งแรงเหมือนกับลวดลายที่แม่พยายามปักลงบนผืนผ้า
................................................................................................................................
การปักที่สะท้อนถึง.............ความรัก  ความผูกพัน  ความเชื่อ.....................
กลายเป็นงานที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม แก่นแท้ของมนุษย์

วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ฝรั่งเว้าลาว...ความทรงจำที่งดงามในค่ำคืน

   เมื่อวาน 28 สิงหาคม 2553   มีผู้หญิงต่างชาติคนนึงก้าวเข้ามาในร้าน เอ่ยทักทายเป็นภาษาไทยว่า สวัสดี
ไอ้เราก็ไม่คิดอะไรมากไปกว่าคำทักทายที่คนต่างชาติมักจะชื่นชอบและพยายามปรับตัวเข้าหาสังคมที่เค้ามาเยื่ยมเยือน จนเมื่อเอ่ยถามเราถึงสินค้าในร้านเป็นภาษาลาว ....(ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างจากภาษาบ้านเรามากนัก) เราก็อึ้ง...ไปพัก คิดว่าเค้าคงพูดภาษาไทยสำเนียงคนต่างชาติน่า  แล้วก็มานึกแปลกใจเมื่อบทสนทนาต่อๆมาทำให้ได้รู้ว่าเค้าเว้าลาวจริงๆ  นอกเหนือจะแปลกใจที่เค้าเว้าลาวแล้วสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกปลื้มผู้หญิงฝรั่งคนนี้มากขึ้นก็คือ เค้ารู้จักผ้าชาวเขาเป็นอย่างดีด้วยเคยอยู่อาศัยและชื่นชอบชื่นชมงานศิลปะดั้งเดิมของชนเผ่าในประเทศแถบเอเซีย  เค้าบอกกับเราว่าไปเที่ยวสิที่นั่นที่นี่มีผ้าแบบนั้นแบบนี้และบอกให้เราจดบันทึกไว้ และเมื่อเธอสนใจในกระเป๋า4-5ใบที่ร้าน เธอบอกกับเราอีกว่า "เป็นไอเดียที่ดี ที่นำหนังมาใช้ ทำให้กระเป๋าสวยและเรียบร้อยมาก ชอบมากจริงๆ ขอให้เธอเลือกหนังที่ดีมาตัดกระเป๋านะ"  พร้อมกับไตร่ตรองเลือกกระเป๋าใบที่ถูกใจที่สุดอยู่ชั่วอึดใจและต่อรองราคากับเรา  ความน่ารัก ความบริสุทธิ์ใจ การแสดงออกของผู้หญิงฝรั่งคนนี้ทำให้เรามองว่า ความต่างของชนชาติไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ที่จะเข้าใจวัฒนธรรมอื่น ฝรั่งคนนี้อาจถือกำเนิดในชนชาตินึง ประเทศนึง แต่เมื่อมาใช้ชีวิตอยู่ในอีกดินแดนก็สามารถปรับตัว เรียนรู้ภาษา วัฒนธรรม รวมถึงแสดงออกด้วยความมีน้ำใจ และความปรารถนาดีที่มีต่อผู้คนรอบข้าง  เมื่อเราเอ่ยแนะนำอะไรต่อเธอบางอย่าง เธอจึงแสดงออกมาในสิ่งที่ประทับใจเรามาก คือการกล่าวคำขอบใจในภาษาลาว พร้อมกับแววตาและรอยยิ้มที่เป็นมิตร  "ขอบใจเจ๊าหลาย" ประโยคนี้จะเป็นประโยคที่เราจดจำเรื่องราวของวันนี้ จะมีความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับผู้หญิงต่างชาติเว้าลาวคนนี้ตลอดไป

วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ความต่าง....


....เคยเล่าเรื่องการตัดกระเป๋ามาบ้างแล้ว
ว่า....แม่ค้าชาวเขาจะคัดผ้าเกรดต่ำสุดมาตัดกระเป๋าขาย....ในราคาทั่วๆไปตามแหล่งการค้าในจังหวัดเชียงใหม่...........
ใบนี้...ก็เช่นเดียวกัน..........เพราะ
เป็นผ้าปักเครื่อง..คือใช้จักรเย็บผ้านั่นแหละ...
ปักลวดลายลงบนผืนผ้า....เมื่อแม่ค้าผ้าได้มาก็นำมาย้อม..ต่อด้วยการตัดเย็บเป็นโหลๆๆขาย
ราคาก็พอประมาณ...ไม่ถูกไม่แพงจนเกินไป
........................................................
เคยมีนักท่องเที่ยวคนไทยคนนึงถามเราว่า...กระเป๋าใบที่เธอถือมานี้งานมือใช่ไหม.....
เราตอบไปว่า....งานเครื่อง
จากนั้นก็มีการสอบถามข้อมูลสินค้าอยู่พักใหญ่
เพราะเธอคิดมาตลอดว่า...เธอได้กระเป๋างานมือชาวเขามาใช้..ต่อเมื่อมาเห็นกระเป๋าที่หลากหลาย
รูปแบบ และราคา....ที่แตกต่างกัน..ทำให้เธองงว่าทำไม..?????? ถึงไม่เหมือนกัน
ที่จริงกระเป๋างานเครื่ิองก็สวยในอีกแบบนึง .....เพียงแต่ว่าคุณต้องเข้าใจว่ามันเป็นงานเครื่องจักรเย็บผ้า.........
กระเป๋างานปักมือที่มีหลากหลายรูปแบบก็สวยในอีกแบบนึง........เพราะมันเป็นงานมือที่ผ่านการออกแบบปักลวดลายต่างๆตามจินตนาการของผู้ปักแต่ละคน..........
..........คนแต่ละคน...ยังมีความแตกต่าง เป็นปัจเจกที่ไม่เหมือนกัน
กระเป๋างานปักมือ...................จึงมีความต่างที่โดดเด่นด้วยคุณค่าของเนื้องานศิลปหัตถกรรม

วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

www.

  









www.hmongbag.com
web  นอกเหนือจากการเสนอสินค้าแล้ว
ความตั้งใจอีกอย่าง...ก็คือ
ความต้องการที่จะเล่าเรื่องชีวิตของผู้คนมากมาย  ผ่านผืนผ้า....ผ่านประสบการณ์ที่เราเจอะเจอ
ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความหมาย  ทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น ...เข้าใจผู้คนมากขึ้น
ความเข้าใจ...มีค่ามากกว่าการหยิบยื่นวัตถุสิ่งของสิ่งใดให้กับใครเสียอีก
เพราะ...ทำให้เราไม่กลายเป็นคนตามสังคม
แต่เป็นคนที่เข้าใจสังคม   เพื่อติดตาม...เรียนรู้...ปรับตัว...
แต่ก็ไม่ได้ลืมเลือนความเป็นตัวของตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง
....สิ่งนี้เองที่ทำให้...เราสามารถที่จะมีชีวิตอยู่อย่างพร้อมที่จะเข้าใจ
ไม่ได้มองผู้คนอย่างผิวเผิน....ตีค่าหรือประเมินคุณค่าของตัวเองดีกว่าคนอื่น
หรือชื่นชมยกย่องกฎความนิยมทางสังคมไปโดยไม่ยั้งคิด

วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อะ-ไร



 เมื่อดูภาพนี้แล้วบอกได้ไหม....
...ว่าผ้าชิ้นนี้คือผ้าอะไร
ของชาวเขาเผ่าไหน...
ใช้อะไรปัก....เอาไปทำอะไร
ราคาเท่าไร....ถูก..แพง
คำถามมากมายเกิดขึ้น...
...แล้วคุณรู้คำตอบไหม.....
ถ้าใช่...แปลว่าคุณรู้จักชาวเขา และรู้เรื่องราวเกี่ยวกับชาวเขามากเพียงพอ....
แต่ถ้าไม่....แปลว่าคุณเพียงรู้จักเพียงภาพที่ปรากฏต่อสายตาคุณเท่านั้น.....
ไม่ผิดหรอกที่คุณไม่รู้....
ไม่แปลกหรอกที่คุณจะชอบ หรือไม่...
แต่ถ้าคุณสนใจ....เราจะมาแลกเปลื่ยนความรู้กัน

วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ดูเรื่องราวชีวิตของชาวเขาเผ่าม้งในเวียดนาม....ผ่านผืนผ้า


ชาวเขา..........
    มีประชากรที่อยู่อาศัยครอบคลุมหลายประเทศ ตั้งแต่จีน
ลงมา ไทย พม่า ลาว เวียดนาม  ล้วนแต่มีชาวเขาเผ่าม้งตั้งรกรากอยู่
ซึ่งส่วนใหญ่ มักจะอยู่อาศัยกันบนภูเขาสูง
    ม้งในเวียดนาม การแต่งกายก็จะแตกต่างจากม้งไทย
ดูได้จากผ้าที่ใช้คลุมผม, เสื้อ,การปักผ้าฯ
.....................................................
การแต่งกายของชาวเขาเผ่าเดียวกัน ....ทำไมไม่เหมือนกัน
อย่างนี้....คนไม่รู้เขาก็งงหน่ะสิ
ใช่...แรกๆ เราก็งง   แต่เพราะหลงเสน่ห์งานปักเลยสะกดคำว่า
พะ-ยา-ยาม   อย่างตั้งอกตั้งใจ
พอได้รู้....ว่า  ชาวเขาเมื่อไปตั้งรกรากอยู่ที่ไหน
ก็จะปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศ,ภูมิประเทศของประเทศนั้น
.....................................................
เวียดนาม......อากาศเย็นถึงขั้นหนาว
การแต่งกาย จะใช้เสื้อเบาบางก็คงจะไม่ได้   ทั้งยังอากาศหนาว..มือเย็นจนจะแข็งจะให้มานั่งประดิดประดอยงานปักทั้งหมดก็คงจะไม่ได้อีก  งานปักของม้งในเวียดนามจึงเป็นการผสมผสาน
ระหว่างงานปักกับการตัดต่อผ้า ที่เราเห็นผ้าเป็นแถบๆๆนั่นแหละ   ดูๆไปเขามักจะใช้งานปักจริงๆ
เฉพาะส่วนมากกว่า ดูได้จากส่วนกลางของตัวเสื้อและกระโปรง  การปักมักนิยมปักลวดลายตามธรรมชาติ ดอกไม้ เถาวัลย์ฯ หรือลายดัดแปลงอื่นๆตามความถนัด  ส่วนการตัดต่อผ้าเดิมก็ทนเย็บมือต่อผ้ากันไป  แต่เดี๋ยวนี้สมัยใหม่....... เค้าพัฒนาแล้ว ใช้เครื่องเย็บผ้าเดินเส้นกันได้อย่างสบายขึ้น
เพราะผ้าที่เขาใช้ค่อนข้างหนา  งานปักผ้าเก่าๆที่เป็นงานมือล้วนๆจึงนับว่าทรงคุณค่าสุดๆ เพราะใช้ความละเอียดในการปัก ความอดทน ความตั้งใจ ที่จะทำให้เกิดชิ้นงานผ้าปักที่สวยสมบูรณ์ขึ้นมา
.........................................................
ชาวเขาเผ่าม้งในเวียดนาม เครืื่องแต่งกายที่สะท้อนสภาพความเป็นอยู่
ความต่าง....ที่ทำให้เกิดเอกลักษณ์
 

วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สาวชาวเขา..กับการแต่งกาย


การแต่งกายของชาวเขาเผ่าม้ง.....
........ เห็นอะไรแปลกตามั๊ย
หันไปดูอีกทีสิ......เห็นยัง
สาวน้อยคนนี้เธอใส่เสื้อเชิ๊ตข้างใน
ท่าจะปักเสื้อเพื่อใช้ใส่วันงานปีใหม่ชาวเขาไม่ทัน
.............................................................
การปักผ้า..ไม่ใช่ของง่าย
และการปักให้สวย สมบูรณ์ยิ่งเป็นงานที่ยากขึ้นไปอีก
การปักผ้าในปีนี้...อาจไม่สวยสมบูรณ์นัก
แต่การปักผ้าในปีถัดไป ......
จะสวย และสมบูรณ์ได้ด้วยการเรียนรู้
และประสบการณ์การฝึกฝนที่มากขึ้นไปตามกาลเวลาwww.hmongbag.com

วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อย่าคิดว่าการทำกระเป๋าชาวเขาขาย...เป็นเรื่องจิ๊บๆๆ


ถ้าคุณคิดว่าการทำกระเป๋าผ้าชาวเขาขาย...เป็นเรื่องง่ายๆๆ  ดูภาพนี้แล้ว..จะเปลื่ยนใจ
  ผ้าชาวเขาที่ได้มา...อย่า...อย่าคิดว่าเป็นผ้าใหม่
ผ้าเก่าใช้แล้วนะคร๊าบท่านผู้ชม   ใช้แล้วไม่พอซักก่อนขายหรือปล่าว..ยังไม่แน่ใจ ( นะ)  ผ้าเก่าที่ซื้อๆมาถูกนำใส่กระสอบปุ๋ยอัดจนแน่นแล้วก็ส่งผ่านมายังชาวเขาที่นำผ้ามาตัดขาย  แล้วก็มากองๆอย่างที่เห็น
สาวๆที่นั่งอยู่ด้านในก็จะเลือกผ้าเกรดต่ำสุดออกมาเพื่อการส่งย้อมสำหรับตัดกระเป๋า
???????????????????
ใช่แล้วหล่ะ....... กลิ่นแร๊ง
แรง...มั๊ก..มาก
และที่สำคัญผ้าที่เลือกมาย้อม ก็ย้อมไปทั้งอย่างนั้น
ไม่ได้เจอะเจอเป็นเพื่อนกับผงซักฟอกเลยแหละ   เค้าว่ากันว่า.....นี่แหละเสน่ห์ของผ้าเก่า ต้องมีกลิ่นด้วยถึงจะชัวร์  แต่เราว่าไม่ไหว...สีทนไม่ได้  ของเราต้องซักก่อนใครจะว่าเปลืองแรงก็ช่างเขา เราจะผูกมิตรกับผงซักฟอก เป็นเพื่อนชั้นยอดกับแทบจะทุกแบรนด์ในประเทศไทยที่โฆษณาว่าขจัดคราบฝังลึกได้
.....ความคิดในการทำกระเป๋าผ้าชาวเขาขาย...ไม่ใช่เรื่องจิ๊บๆๆนะ

เบื้องหลัง...การทำกระเป๋าของชาวเขา1


ชาวเขาคนนี้รับย้อมผ้า....
  ผ้าที่แม่ค้าผ้าชาวเขาคัดงานเกรดต่ำสุดมาย้อมเพื่อนำไปตัดกระเป๋าขาย..
เราถามเขาว่า...ย้อมสีอะไรบ้าง
...มีสีแดง....กะสีม่วง  เขาตอบเราแบบอายๆ
....ก็น้า...คนเบื้องหลังก็งี้....
ถ้าออกไปเป็นแม่ค้าอย่างเพื่อนชาวเขา..ความอายก็จะหมดไป แต่ก็ดีไปอย่าง...น่ารักดี
ขั้นตอนก็ไม่มีอะไร..ใช้ปี๊ปใส่น้ำร้อนใส่สีนำผ้าลงพอได้ทีเอาผ้าออกมา..แล้วก็ตากอย่างที่เห็น

วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เหงา...หรือรู้สึกว่าเป็นสุขกับภาพนี้


   ภาพนี้ถ่ายฝั่งลาว.......
แสงพระอาทิตย์เริ่มหายไปจากฟ้า
บ้านเรือนผู้คนบางตา..หรือแทบนับหลังคาได้
สายน้ำที่เงียบสงบ....
ทิวทัศน์ที่ไม่ได้สวยเลิศเลอ
ชีวิตริมแม่น้ำสายหนึ่งที่ธรรมดา.....
คนต่างถิ่นมา...เค้ามาชื่นชม...
หรือมาสร้างความรู้สึกเหงาให้กับตัวเอง
(ไม่..ไม่ช่าย...ไม่ใช่เรานะ )
....เรารู้สึกเป็นสุขอยู่เสมอกับการเห็นภาพที่ธรรมดาเช่นนี้
  

สาวชาวเขาปั่นผ้าใยกัญชา..เพิ่งเห็นกะตาก็คราวนี้แหละ


....เดินเพ่นพ่านไปทั่วหมู่บ้านเค้า
ชะงัก...ทำไรหว่า
อ๋อ...ปั่นใยฝ้ายมั้ง  คิดแล้วก็ต้องถามเพื่อให้ชัวร์
สื่อสารกันกว่าจะรู้เรื่อง
ใยกัญชา... ไม่ใช่ฝ้าย
อ๋อ...ผ้าใยกัญชาที่เป็นผืนสวยๆเค้าทำกันแบบนี้เหรอ
กว่าจะถึงบางอ้อ..ก็หือ...ไรหน่ะๆๆๆ ไปหลายยก
สาวชาวเขาเค้าเลยสงเคราะห์
นี่...เค้าทำกันอย่างนี้
......เพิ่งเห็นกะตาก็คราวนี้
กว่าจะได้เป็นผืนก็....เอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย

บ้านชาวเขาล้าสมัย หรือ อนุรักษ์


ไปครั้งนี้ผ่านเข้าไปสู่บ้านของชาวเขาในประเทศลาว
อาจดูไม่แปลกตาสำหรับคนบ้านๆอย่างเรา มองดูสวยในอีกแบบด้วยซ้ำ แต่ในความคิดหนึ่งก็ย้อนถามตัวเองว่า บ้านของชาวเขาหลังนี้ล้าสมัย หรือ น่าจะอนุรักษ์ไว้ ในความคิดเห็นของคนทั่วๆไปในสังคมการเปลื่ยนแปลง

ชาวเขา กับ ชาวเรา

วันหยุด... หรือวันที่ตั้งใจจะหยุด
ไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่ออกเดินทางไปไหนต่อไหน
ครั้งนี้ไปแถบเชียงของ ด้วยความสนใจทำให้เรามุ่งไปสู่หมู่บ้านของชาวเขา ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับ และทำหน้าที่เป็นแม่ค้านำเสนอผลงานกันอย่างตั้งใจ ถึงแม้ภาษาจะเป็นอุปสรรค แต่ก็ไม่เหนือไปกว่าความตั้งใจ และภาษาใบ้ที่จะใช้สื่อสารกัน